Posts

Showing posts from November, 2017

ตำนานหลอนมหา’ลัยมหิดล ศาลายา

Image
เรื่องเล่า ตำนานหลอน ในมหา’ลัยมหิดล ศาลายา 1. ที่มาของคำว่า “ศาลายา” ซึ่งคนแถวนี้เชื่อกันว่าชื่อ “ศาลายา” มาจากในสมัยก่อนพื้นที่บริเวณนี้เกิดโรคระบาด หรือโรคห่าที่ระบาดไปทั้งในเด็ก ผู้ใหญ่ ผู้คนมากมายนอนตายทับถมเป็นกองสูง ศพที่ไม่ได้นำไปเผาก็ถูกทิ้ง ให้แร้งจิกกินเป็นที่น่าสังเวช เช่นเดียวกับประตูผีที่ วัดสระเกศ บริเวณภูเขาทองในปัจจุบัน ทางการจึงตั้งศาลาแห่งหนึ่ง ไว้เพื่อส่งมอบยาแก่ชาวบ้าน ต่อมาจึงเรียกพื้นที่ดังกล่าวว่า “ศาลายา” 2. เพลงรักน้อง “เจ้านกน้อย ล่องลอยโผบิน จากแผ่นดินทะเลสีคราม…” นั่นคือ เนื้อเพลงรักน้อง หรือเจ้านกน้อยอย่างที่ใครหลายๆ คนพูดจนชินปาก เพลงอาถรรพ์ของชาวศาลายา มีเรื่องเล่ากันว่า นักศึกษาพยาบาลคนหนึ่งถูกผู้เป็นพ่อ-แม่บังคับให้เรียนในสายที่ไม่เต็มใจ ด้วยความเสียใจและเขาไม่คิดว่ามีใครเข้าใจความรู้สึกเขาเลย นักศึกษาพยาบาลคนนั้นจึงปีนขึ้นไปบนดาดฟ้าของหอพัก และเขียนข้อความสั้นๆ ไว้ หลังจากนั้น จึงทิ้งร่างลงมาสู่พื้นด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ เพลงรักน้อง จึงเป็นเครื่องหมายที่บ่งบอกความระลึกถึงนักศึกษา พยาบาลคนนั้น ชาวศาลายาจะถือกันว่า เพลงนี้ห้ามร้องในเวลากลางคืน และถ้าใครค

ANNABELLE DOLL ตุ๊กตาผีอนาเบลล์อันเลื่องลือ

Image
ในเมือง “มอลโรลล์” (Monroe) รัฐคอนเน็คติกัล (Connecticut) มีพิพิธภัณฑ์แห่งหนึ่งชื่อ “วอเรน ออคคอล มิวเซียม” (Warren occult museum) ซึ่งเป็นสถานที่เก็บสิ่งของที่ต้องอาถรรพ์และสยองขวัญมากมายรวมอยู่ในที่แห่งนี้ แต่มีสิ่งเดียวที่ทรงพลังในการฆ่าที่สุดเห็นจะไม่พ้น “ตุ๊กตาผีอนาเบลล์” ในปี ค.ศ.1970 หญิงสาวนามว่า “ดอนน่า” ที่อาศัยอยู่ในอพาร์ทเม้นกับเพื่อนที่ชื่อว่า “แอนจี้” ได้รับตุ๊กตาในวันครบรอบคล้ายวันเกิดปีที่ยี่สิบแปด เธอตั้งชื่อมันว่า “อนาเบลล์” ซึ่งมันจะถูกวางไว้บนเตียงอยู่ตลอดเวลา แต่กระนั้นหลายวันที่ดอนน่าสังเกตการณ์เห็นสิ่งผิดปกติเมื่อตุ๊กตาเปลี่ยนท่าทางในการนอนไปจากเดิม ทั้งมีการไขว้ขาหรือตะแคงนอน แต่จะเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเรื่องขนลุกต่อมา เมื่อเธอพบข้อความต่างๆ เขียนด้วยลายมือว่า “ช่วยด้วย” หรือ “ช่วยพวกเราด้วย” ต่อมาเมื่อมีเรื่องแปลกประหลาดเกิดขึ้น เธอจึงเรียกให้คนทรงมาตรวจสอบเรื่องเหล่านี้ ซึ่งคำตอบที่เธอได้รับก็คือ มีผู้หญิงคนหนึ่งถูกฆ่าตายในห้องนี้และวิญญาณเธอก็ได้สิงเข้าไปยังตุ๊กตาตัวนี้แล้ว ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาพวกเธอจึงพยายามปฏิบัติเอาใจตุ๊กตาตัวนี้อย่างดีเรื่อยมา แต่ไม่ใช่ทุก

ตำนานเรื่องเล่าผีนับจาน หรือ ซารายาชิกิ หรือ โอคิคุ

Image
เป็นเรื่องเล่าของวิญญาณที่ จะออกมาจากบ่อเก็บน้ำ และเริ่มนับจานตั้งแต่ 1 ใบจนถึง 9 ใบ แล้วจะร้องไห้อย่างหัวใจสลา ย ซึ่งที่มาก่อนที่โอคิคุจะกล ายเป็นผีนั้นมีหลายเรื่องเล ่า บางเรื่องกล่าวว่าโอคิคุทำจ านของเจ้านายแตก เจ้านายโมโหมากจึงฆ่าโอคิคุ ทิ้งแล้วเอาศพทิ้งลงบ่อน้ำ เรื่องเล่าที่มีชื่อเสียงขอ งโอคิคุมีที่มาจาก เธอเป็นสาวใช้ของอาโอยาม่า ผู้ท ี่หวังจะโค่นล้มอำนาจของเจ้ าเมือง โอคิคุบังเอิญไปได้ยินแผนกา รเข้า เธอจึงไปเล่าให้คนรักของเธอ ฟัง ซึ่งคนรักของเธอเป็นทหารเจ้ าเมือง แผนการของอาโอยาม่าจึงถูกเป ิดโปงและล้มเหลวในที่สุด เมื่ออาโอยาม่ารู้ว่าโอคิคุ เป็นคนแอบได้ยินเรื่องแผนกา ร เป็นต้นเหตุทีทำให้แผนล้มเห ลว อาโอยาม่าจึงวางแผนจะสังหาร เธอซะ อาโอยาม่าจึงใส่ความโอคิคุว ่า เธอขโมยจานที่ล้ำค่าไป 1 ใบซึ่งในชุดจานนั้นจะมี 10 ใบด้วยกัน โอคิคุถูกทรมานจนตาย และถูกทิ้งศพลงบ่อน้ำ บ่อน้ำของโอคิคุสันนิษฐานว่ าอยู่ที่ปราสาทฮิเมจิ แต่ก็มีที่อ้างถึงอีกแห่ง คือ บ่อน้ำของสวนในสถานทูตประเท ศแคนาดาที่โตเกียว ซึ่งเดิมทีเป็นที่ดินของตระ กูลอาโอยาม่า

เสียงลึกลับ (Unexplained Sound, Taos Hum)

Image
เรื่องราวก็มีอยู่ว่าในปี ค.ศ.1977 ประชาชนของอเมริกาเกิดได้ยินเสียงประหลาดขึ้นมา ซึ่งลักษณะของเสียงจะคล้ายกับเสียงเหมือนผึ้งบินหรือแมลงที่กำลังบินอยู่ หึ่ง หึ่ง หึ่ง อะไรประมาณนี้ซึ่งว่ากันว่าถ้าไม่ใช่สถานที่ที่เงียบสงบแล้วก็จะไม่ได้ยินเสียงนี้  โดยเจ้าเสียงที่ว่านี้ดังติดต่อกันตลอดเวลาแต่บางทีก็เว้นจังหวะเป็นระยะแบบ สม่ำเสมอกัน เสียงปริศนานี้เกิดขึ้นอยู่นานครับ โดยที่ยังหาต้นตอของเสียงไม่เจอแต่อย่างใด กระทั่งได้มีการสำรวจและวัดค ลื่นความถี่ของเสียงปริศนาออกมาเรียบร้อย ก็ราว 30-80 Hz โดยประมาณครับ แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะได้ยินเสียงนี้ คนที่ไม่ได้ยินก็มี ที่ได้ยินก็เยอะ แต่ก็หาสาเหตุไม่พบว่าเสียงปริศนานี้เกิดจากอะไร ในช่วงเวลาขณะนั้น คนที่ได้ยินเสียงนี้ต่างก็เสียสุขภาพจิตไปตามๆ กันครับ จะนอนก็ไม่หลับ อ่านหนังสือก็ไม่รู้เรื่อง เพราะทั้งสองหูได้ยินเสียงที่ว่านี้รบกวนอยู่เกือบตลอดเวลา โดนเจ้าเสียงประหลาดนี้เล่นงานเอาแทบเกือบแย่ไปตามกัน  จนได้มีการตั้งทีมงานเฉพาะขึ้นมาเพื่อตรวจสอบหาสาเหตุนี้เหมือนกันครับ แต่ก็คว้าน้ำเหลว เพราะหาข้อสรุปและคำอธิบายไม่ได้ว่าต้นตอของเสียงปริศ

รถมรณะดูดวิญญาน

Image
เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 1914 อาร์คดยุคเฟอร์ดินานด์ เจ้าชายแห่งออสเตรียเจ้าของรถคันแรกถูกยิงจนสิ้นพระชนม์พร้อมพระชายา เป็นชนวนเกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 ผู้ว่าการรัฐยูโกสลาเวียประสบอุบัติเหตุจนเสียแขนขวาจากการเป็นเจ้าของรถมรณะต่อจากเจ้าชาย นายแพทย์คนสนิทผู้ว่า เสียชีวิตอนาถจากอุบัติเหตุจนโดนเจ้ารถคนนี้ทับบี้อยู่ใต้ท้องรถ นักแข่งชาวสิสผู้ครอบครองคนต่อมาใช้รถมรณะเป็นรถแข่งคู่ใจ ก็สิ้นชีพดับสยองคาสนามจากอุบัติเหตุในสนาม ถูกนำไปโชว์ในพิพิธพันฑ์แห่งชาติเกี่ยวกับความลี้ลับและน่ากลัวของรถคันนี้ ก่อนโดนถล่มด้วยระเบิดจากสรงครามโลกครั้งที่ 2 และไม่มีใครพบเห็นมันอีกเลย

อาชีพสุดแปลกในญี่ปุ่น รับจ้างพักในห้องเช่าที่มีผี

Image
อาชีพนี้ในญี่ปุ่นเริ่มที่จะฮอตฮิตขึ้นมาเพราะห้องพักที่ผู้รับจ้างต้องไปอยู่เป็นห้องที่เกิดคดีฆาตกรรมหรือมีคนฆ่าตัวตาย หลังตำรวจชันสูตรศพและเก็บกวาดทุกอย่างเรียบร้อย ทำความสะอาดห้องนั้นเป็นอย่างดีแล้ว ผู้รับจ้างต้องไปพักในห้องนั้นเป็นเวลาอย่างน้อย 1 เดือน เพื่อพิสูจน์ว่าไม่ได้จ๊ะเอ๋อะไรน่ากลัว เจ้าของแมนชั่นหรือบริษัทนายหน้าให้เช่าบ้านจะได้เอาห้องนี้ไปปล่อยให้เช่าได้อย่างสบายใจ เนื่องจากห้องเช่าที่มีปัญหาเจ้าของเก่าตา ยไป ไม่ว่าจะตายปกติหรือมีอุบัติเหตุ ฆาตกรรมก็แล้วแต่ มักจะปล่อยต่อไม่ได้เพราะคนจะกลัววิญญาณ เพื่อยืนยันว่าห้องนี้ไม่เฮี้ยนและอยู่ได้ เพื่อให้เจ้าของได้พิสูจน์และสามารถปล่อยเช่าได้นั่นเอง ส่วนเรื่องรายได้ก็ล้วนแล้วแต่จะตกลงกันเองตามเหตุการณ์ความรุนแรงของห้องนั้นๆ แต่ถ้าเจอเจ้าของห้องคนเก่ามาเยี่ยมเยือน … อันนี้เขาเรียกค่าเสียหาย ค่าทำขวัญกันอย่างไร ไม่ทราบเหมือนกัน

คดี Toi Mutsuo ฆ่าเหยื่อเสียชีวิต 30 ราย และบาดเจ็บ 3 คน

Image
โทอิ มุทสึโอะ เด็กหนุ่มอายุ 21 ปีที่ทั้งชีวิตถูกกดดันอย่างหนักและได้รับทุกข์ทรมานจากวัณโรคที่รักษาไม่หาย เขาอาศัยในหมู่บ้านไคโอะ หมู่บ้านขนาดเล็กในหุบเขา ซึ่งส่วนหนึ่งของเมืองสึยามะในจังหวัดโอคายามะ พ่อแม่ตายตั้งแต่เด็ก ยายรับเลี้ยงดูแต่เกิดภาวะซึมเศร้าและถูกหญิงในหมู่บ้านปฏิเสธที่จะคบเป็นแฟนเพราะเขาเป็นวัณโรค จนทำให้ความถึงขีดสุดจนก่อเหตุสังหารหมู่ขึ้น โดยในบันทึกฆ่าตัวตายของเขาบอกเป็นนัยว่าที่เขาทำเรื่องดังกล่าวเพราะความเจ็บปวดจากการถูกปฏิเสธจากเพื่อนหญิงของเขา ในชั่วโมงแรกของวันที่ 21 พฤษภาคม 1938 มุทสึโอะขึ้นไปในห้องใต้หลังคาแล้วเปลี่ยนชุดเตรียมออกรบ เขาใส่เสื้อคอตั้งของทหาร พันสายคาดกับหน้าแข้งทั้งสองข้าง บนหัวพันกระบอกไฟฉายขนาดเล็กสองอันไว้ราวกับเขาของปีศาจ แล้วแขวนไฟหน้าของจักรยานไว้กับตัว ที่เอวเสียบดาบญี่ปุ่นกับมีดจีนอีกสองเล่ม ในมือถือปืนบราวนิ่งขนาดยิงติดต่อกันเก้านัด เขายัดกระสุนลงในกระเป๋ากว่า 100 นัด สะพายย่ามซึ่งบรรจุดินปืนกับปลอกกระสุน และวางพินัยกรรมของตนทิ้งไว้แล้วก็พร้อมที่จะเปิดฉากการล้างแค้น เริ่มจากใช้ขวานฆ่ายายของเขาด้วยการตัดหัวจนขาดกระเด็น จากนั้น

ความเชื่อ The Living Severed Head

Image
เป็นความเชื่อของคนหลายคนทั่วโลกไม่ใช่เฉพาะแค่อเมริกา โดยเชื่อว่าเมื่อคนโดนตัดหัวหลุดจากบ่า แต่แล้วหัวนั้นมันมีชีวิตอย ู่ระยะหนึ่ง มันยังคงพะงาบๆ และมันเหลือบมองหน้าคนตัดอย่างอาฆาต!! และมันก็เกิดขึ้นจริงซะงั้น!!  เมื่อหัวเราหลุดจากบ่า เรายังมีชีวิตอยู่ต่อได้ไหม เราสามารถกระพริบตา พะงาบๆ สมองยังทำงานได้ไหม เรื่องเหล่านี้เริ่มขึ้นในช่วงที่กิโยตินหรือเครื่องตัดหัวเป็นที่นิยมใช้ประหารนักโทษ ด้วยเหตุผลที่ว่าเป็นการประหารที่ทำให้ผู้ถูกประหายตายอย่างรวดเร็ว หมดจด สมองไม่เสียหาย เวลาประหารแต่ละทีจะทำท่ามกลางประชาชนที่มามุมแน่นขนัด และนั้นเองทำให้พวกเขามีโอกาสเห็นหัวยังมีชีวิต หนึ่งในนั้นคือ สมัยปฏิวัติฝรั่งเศส วันที่ 17 กรกฎาคม 1793 สาวนาม ชาร์ล็อตต์ คอร์เดย์ (Charlotte Corday) สาวบ้านนอกที่ทำการฆาตกรรม พอล มารัต(Jean-Paul Marat)เธอถูกประหารด้วยกิโยติน หลังจากคมมีดตัดเอาศีรษะเธอกระเด็นออก ผู้ช่วยประหารคนหนึ่งหยิบหัวเธอมา แล้วตบแก้ม พยานโดยรอบยืนยันว่าดวงตาของเธอกลอกมามองเขาพร้อมกับสีหน้าไม่พอใจและได้พูดคำว่า “ไม่ได้”(couldn) หลังจากนั้น ผู้คนที่จะถูกประหารด้วยกิโยตินก็จะถ

จดหมายเรียกค่าไถ่ "The Lindbergh Baby"

Image
“สวัสดี ! เตรียมเงินจำนวน 50,000$ ให้พร้อม เป็นใบ 20$ เป็นเงิน 1,500 ใบ ใบ 10$ เป็นเงิน 1,500 ใบ กับใบ 5$ เป็นเงิน 1,000 ใบ หลังจากนี้ 2-4 วัน เราจะบอกว่าให้ส่งเงืนที่ไห น เราขอเตือนคุณเรื่องเปิดเผย ต่อสาธารณะหรือแจ้งตำรวจ เด็กได้รับการดูแลอย่างดี” นี่คือข้อความจดหมายเรียกค่ าไถ่ที่ส่งมายังชาร์ลส์ ลินด์เบิร์กนักบินเดี่ยวที่ มีชื่อเสียงของสหรัฐ อเมริกา เพื่อเรียกเงินจำนวนดังกล่า วแลกกับชาร์ลส์ ลินด์เบิร์ก จูเนียร์ อายุ 1 ขวบ กับอีก 8 เดือนของเขา ที่ถูกลักพาตัวไปจากเปลนอนใ นบ้าน เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 1932  แม้ว่าลินด์เบิร์กจะเตรียมเ งินเอาไว้ตามที่คนร้ายต้องก ารหากแต่พวกเขาก็ไม่ได้รับต ัวหนูน้อยกับคืนมาแต่อย่างใ ด และอีก 72 วันต่อมา ก็มีการพบร่างเน่าเปื่อยของ ทารกในป่าบริเวณใกล้บ้านของ ลินด์เบิร์ก เชื่อว่าเป็นศพของเด็กชายลิ นด์เบิร์กที่ถูกฆาตกรรมหลัง จากถูกลักพาตัว 2 ปีต่อมาก็มีการจับกุมบรูโน ริชาร์ด ฮอมป์ตแมนน์ ชาวเยอรมันที่ต้องสงสัยว่าเ ป็นคนลักพาตัวและทำการฆาตกร รมหนูน้อยลินด์เบิร์ก แต่กระนั้นบรูโนก็ยังให้การ ปฏิเสธและยืนยันว่าเขาบริสุ ทธิ์ อย่างไรก็ตามสุดท้

ภาพวาดต้องคำสาป (Crying Boy)

Image
ภาพวาด “เด็กชายร้องไห้” (Crying Boy) ของ Bruno Amadio เป็นภาพวาดยอดนิยมที่ถูกตีพ ิมพ์ขึ้นมาเป็นจำนวนมากในช่ วงปี ค.ศ.1950 โดนเฉพาะในแถบสหราชอาณาจักร   อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงปี ค.ศ.1980 ภาพวาดนี้ก็ดึงดูดความสนใจข องหนังสือพิมพ์ประเทศอังกฤษ หนังสือพิมพ์ The Sun เขียนเรื่องเกี่ยวกับนักดับ เพลิงที่อ้างว่า เคยอยู่ในเหตุการณ์ที่บ้านห ลายหลังถูกไฟไหม้ เหลือเพียงแต่รูปภาพน ี้ที่ไม่ได้รับความเสียหายอ ะไรเลย เขาถึงกับพูดด้วยว่า ไม่มีนักดับเพลิงคนไหนกล้าแ ขวนถาพนี้ไว้ในบ้านของตัวเอ ง เพราะกลัวบ้านจะถูกไฟไหม้ หนังสือพิมพ์นี้ยังจริงจังถ ึงขนาดไปสัมภาษณ์สมาชิกในบ้ านที่ถูกไฟไหม้และมีภาพวาดน ี้อยู่ในบ้านด้วย และภายในระยะเวลา 6 เดือน The Sun ก็เป็นผู้เริ่มโครงการภาพเข ียนต้องคำสาปที่แนะนำให้ผู้ อ่านที่มีภาพนี้อยู่ยกภาพวา ดเจ้าปัญหานี้ให้คนอื่นเสีย หรือสามารถลบคำสาปได้ด้วยกา รแขวนภาพเด็กผู้ชายนี้ไว้ใก ล้ๆ ภาพวาดเด็กผู้หญิง หรือส่งภาพมายังสำนักพิมพ์เ พื่อให้เผาทำลายเสีย อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้น BBC ก็ทำการตรวจสอบภาพวาดเหล่าน ี้และพบว่า มันถูกเคลือบเอาไว้ด้วยสารท ี่กันไฟต่างหาก นี่อาจจะเป

ผีผู้หญิงที่ชอบโบกรถ The Vanishing Hitchhiker

Image
เป็นหนึ่งในตำนานที่เก่าแก่ ที่และฮิตที่สุดในช่วงปี 1981 ไม่เพียงแต่อเมริกาเท่านั้น ยังเป็นหลายประเทศทั่วโลกด้ วย? อาจจะแตกต่างไปบ้างในบางพื้ นที่ แต่ส่วนหลักๆ เหมือนกัน เกี่ยวกับผีผู้หญิงที่ชอบโบ กรถ  โดยเล่ากันว่าหากคืนมีคนกำล ังขับรถในถนนที่ร้างผู้คน จู่ๆ เขาจะเห็นผู้หญิงสาววัยรุ่น กำลังโบกรถอยู่ข้างทางตามลำ พัง เขาจึงแวะรับเธอขึ้นรถมาด้ว ย และเมื่ อถึงจุดหมายปลายทางที่หญิงส าวต้องการ เมื่อเขาหันไปเพื่อบอกลาเธอ เธอก็หายตัวไปอย่างลึกลับจา กเบาะหลัง ด้วยความสับสน เขาเลยกดออดที่หน้าบ้านของเ ธอ เพื่อสอบถามเรื่องดังกล่าว ก็พบว่าหญิงสาวที่ว่านั้นได ้รับอุบัติเหตุรถยนต์ตายก่อ นหน้าแล้วที่จุดที่เขารับรพ เธอในขณะที่เธอพยายามกลับบ้ าน ล่ะหญิงสาวที่เขาเจอก็คือผี นั่นเอง และเรื่องเล่านี้อาจมีหลายส ่วนที่เปลี่ยนไปบ้าง เช่น กลางคืนที่ว่าอาจฝนตก และตัวหญิงสาวอาจตัวเปียกปอ น เขาจึงให้เธอยืมเสื้อแจ๊คเก ็ตของเขาให้กับเธอและเมื่อถ ึงบ้านที่หมาย(บางที่ก็เป็น สุสาน) เธอกลับหายไปพร้อมกับเสื้อแ จ็คเก็ตของเขา ด้วยความข้องใจ ชายคนนั้นจึงลงจากรถไปเคาะป ระตูบ้านหลังนั้น? ก็พบว่าเธอได้เมื่อ 10 ปีมา

ความฝันที่กลายเป็นจริง Buried Alive

Image
เรื่องเล่ากันว่ามีหญิงชายคนหนึ่งแต่งงานกับ และอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข จนกระทั้งแก่เฒ่า จนกระทั้งวันหนึ่งภรรยาของ เขาได้จากไป เขาจัดพิธีศพตามหลักศาสนาคริสต์ คือนำศพของเธอมาฝังในโลงศพอย่างดีมาฝังในสุสานเพื่อให้เธอพักผ่อนถาวร เรื่องคงจบแต่เพียงเท่านี้ หากแต่ไม่ เมื่อดึกคืนหนึ่งในขณะที่ฝ่ายชายนอนหลับ เขาได้ฝันน่ากลัวเข้า เมื่อเขาเห็นภรรยาที่อยู่ในโลงศพลืมตาดื่นขึ้น เธอพยายามตะเกียดตะกายเพื่อออกจากโลงที่ถูกฝังในดิน ความมืด ความแคบ อาการน้อยลงทุกที ทำให้เธอกลายเป็นบ้า เธอกำลังร้องชื่อเขาเพื่อมาช่วยเหลือเธอ ฝ่ายชายฝันร้ายแบบนี้ทุกค่ำคืน จนกระทั้งทนไม่ไหว เขาเลยร้องขอให้แพทย์และหน่วยงานท้องถิ่นนำโลงศพของภรรยาของเขาออกมา และเมื่อทั้งหมดเปิดฝาโลงก็ตะลึงเมื่อศพภรรยาของเขาไม่ได้เน่าเบื่อ ซ้ำที่เบิกตาโพลง ทำหน้าตาหวาดกลัว ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยขีดข่วน ที่เล็บมีเลือดเกรอะกรัง และที่ฝาโลงด้านในมีรอยขีดข่วนชัดเจน มันเป็นจริงซะงั้น! เรื่องของศพที่คิดว่าตายแล้วนำมาฝังตามพิธีกรรมทางศาสนา หากแต่ต่อมากลับพบว่าผู้ตายนั้นไม่ได้ตายจริง และกลับมาคืนชีพในโลงศพและพยายามตะเกียดตะกายเอาชี

ตำนานสิ่งมีชีวิตลี้ลับ : ปีศาจโดเวอร์ (Dover Demon)

Image
เขาเรียกกันว่า ปีศาจโดเวอร์ (Dover Demon) เพราะมีผู้พบเห็นที่ เมืองโดเวอร์ ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่ที่ส ุดเป็นอับ 2 รอง จากบอสตัน ใน มลรัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา แต่พบเจอแค่ครั้งเดียวนะ ในปี พ.ศ. 2520 หรือ ค.ศ. 1977 พบครั้งแรกเมื่อเดือน 22 เมษายน ค.ศ. 1977 บิลส์ บาร์ทเล็ทท์, ไมค์ แมซซอคคา และแอนดี้ บรอดี วัยรุ่นอายุราว 17 ปี กำลังขับรถไปทางเหนือของฟาร์มสตรีท ในขณะที่ขับรถอยู่ บาร์ทเล็ทท์ซึ่งเป็นคนขับรถก็ได้เห็นสิ่งประหลาดสิ่งหนึ่งกำลังปีนไปตาม กำแพงเตี้ยๆ ทางด้านซ้ายของถนน ครั้งแรกที่เห็นบาร์ทเล็ทท์คิดว่าอาจ เป็นสุนัขหรือไม่ก็แมว จนกระทั้งไฟหน้ารถได้ฉายตกกระทบกับร่างลึกลับอย่างจัง สิ่งที่พวกเขาเห็นนั้น เป็นสิ่งที่เขาไม่เคยเห็นก่อนในชีวิต “ร่างนั้นมันค่อยๆ หมุนศีรษะของมันอย่างช้าๆ และจ้องมองมายังแสงไฟของรถ ตากลมของมันสองประกายราวกับแก้วใส เหมือนหินอ่อนสีส้ม 2 ลูก หัวของมันตั้งอยู่บนคอเล็กๆ มีลักษณะคล้ายแตงโม มองดูแล้วผิดส่วน กล่าวคือแขนและขายาวและผอมเรียว แต่มือและเท้าใหญ่ ผิวไม่มีขนและมีสีลูกพีช และหยาบเหมือนกระดาษทราย ร่างนั้นมันสูงไม่เกิน 4 ฟุต มีลักษณะคล้าย

ตำนานสิ่งมีชีวิตลี้ลับ ชายส้นเท้าสปริง

Image
เรื่องราวของชายส้นเท้าสปริงเกิดขึ้นในสมัยที่อเล็กซานดรีนา วิกเตอเรีย โดยชายส้นเท้าสปริงเริ่มออกมาอาละวาดในช่วง 1 836-1986 โดยสัตว์ประหลาด (อาจเป็นคนปลอมตัว) นั้นมันมีความสามารถพิเศษคือ สามารถกระโดดสูงอย่างที่มนุษย์คนไหนสามารถกระโดดได้เหมือนกับว่าร้องเท้าของมันติดสปริงด้วย นอกจากนั้นรูปร่างของมันก็ไม่เหมือนกับคน ซึ่งพยานคนหนึ่งได้เคยเผชิญหน้ากับมันและบรรยายอย่างน่าขนลุกว่า “รูปร่างของมันสูงและผอม หน้าของมันเหมือนภูตผีปีศาจ ที่มือของมันมีอุ้มเล็บยาว ตาเหมือนลูกบอลสีแดงที่ลุกเป็นไฟ ใส่หมวก กางเกงมีสีขาว สวมเสื้อคลุมสีดำชอบปรากฏตัวจะกางผ้าคลุมทำให้เวลาดูราวมันเป็นมนุษย์ค้างคาวยังไงอย่างงั้น” นอกจากนั้นยังมีรายงานเวอร์ๆ ออกมาเป็นระลอกที่ส่งเสริมให้ชายส้นเท้าสปริงกลายเป็นสัตว์ประหลาดเข้าไปใหญ่ เช่น ลมหายใจออกสีน้ำเงินมีฟันแหลมคล้ายแวมไพร์ หูและจมูกแหลม สามารถพ่นเปลวไฟสีขาวออกจากปากได้ มีทฤษฎี,ข้อสันนิษฐานจำนวนมากที่นำอธิบายฆาตกรเหนือธรรมชาติรายนี้ เช่นมันอาจเป็นลิงที่หลุดจากละครสัตว์ นักแสดงชายชราโรคจิต นักมายากล หรือสัตว์ลึกลับ นอกจากนี้บางคดีก็มีคนมาลอกเลียนแบบชายส

ลิฟท์เขียว : คุณโตะ

Image
เรื่องเล่าโดยคุณโตะ เรื่องนี้เกิดขึ้นที่คอนโดแห่งหนึ่งแถวลาดกระบัง ซึ่งโตะนั้นทำงานเป็นพนักงานส่งอาหาร delivery ของที่ที่นึง วันนั้นโตะก็ได้ทำงานแล้วเข้ากะกลางคืน และตอนตี 3 โตะก็ได้รับออเดอร์ไปส่งอาหารให้ลูกค้าที่คอนโดแห่งนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ โตะนั้นเคยมาส่งอาหารที่นี่แล้ว 2-3 รอบ แต่ก็ไม่ได้เข้าไปในตึก ลูกค้าจะลงมารับอาหารเอง แต่ว่ารอบนี้พอโตะมาถึงหน้าคอนโด ก็โทรให้ลูกค้าลงมารับอาหาร แต่ว่าลูกค้าบอกว่า ขาเจ็บลงไปไม่ได้ น้องขึ้นมาส่งได้มั๊ย โตะก็ตอบกลับไปว่า ผมเข้าคอนโดไม่ได้ ไม่มีคีย์การ์ดครับ ลูกค้าก็บอกว่า ให้บอกลุงยามที่อยู่ข้างล่างว่า มาส่งของที่ห้องนี้ๆ ชั้น 6 นะ  โตะก็เดินไปที่หน้าประตูเดินไปหาลุงยาม แต่ว่าลุงยามไม่อยู่ตรงนั้นและประตูก็เปิดอยู่ด้วย โตะก็เลยบอกกับลูกค้าว่า ถ้ามีอะไรหรือเกิดอะไรขึ้น รบกวนพี่ช่วยเป็นพยานให้ผมด้วยนะ แล้วโตะก็วางสายและเดินเข้าไปในตัวคอนโดพอเดินเข้ามาก็จะเจอลิฟท์ โตะก็กดลิฟท์เข้าไป กดที่ชั้น 6 แล้วลิฟท์ก็มาหยุดที่ชั้น 2 ก็มียายแก่ๆ เดินเข้าลิฟท์มา แล้วก็ยืนอยู่ตรงกลางลิฟท์ และตาของยายจะมองตรงไปที่ประตูลิฟท์อย่างเดียว ยายคนนี้อายุประมาณ 70-80 ใส่ผ้าถุง

เวรหลอน : คุณฟ้า

Image
เรื่องเล่าโดยคุณฟ้า เรื่องนี้เกิดขึ้นที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ฟ้าเป็นพยายาลฝึกหัดอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งนึง แล้ววันนั้น เพื่อนฟ้าไม่สบาย ฟ้าก็เลยต้องเข้าเวรแทนเพื่อน โดยส่วนตัวฟ้านั้นจะอยู่ที่แผนกฉุกเฉิน แต่วันนั้นฟ้าต้องไปอยู่ที่ แผนก อายุรกรรมชาย ซึ่งเป็นชั้น 2 ของโรงพยายาล ในคืนนั้นเวลา 5 ทุ่มครึ่ง ฟ้าก็เข้ามารอ เพราะตอนเที่ยงคืนก็จะส่งเวรต่อให้ฟ้า แล้ววันนั้นก็มีอุบัติเหตุใหญ่ พี่ที่เป็นหัวหน้าพยายาลจะลงไปช่วยที่ฉุกเฉินข้างล่าง ณ ตรงนั้นก็จะเหลือแค่ ฟ้า แค่คนเดียว ฟ้าก็กลัวก็เลยบอกให้เพื่อนอีกคนนึงที่เข้าเวรอยู่ชั้น 3 ลงมาอยู่เป็นเพื่อนจนกว่าพี่หัวหน้าจะกลับมา แล้วก็ถึงเวลาที่ฟ้าจะต้องไปวัดความดันคนไข้ แต่พี่หัวหน้าพยาบาลก็ยังไม่ขึ้นมา ฟ้าก็ชวนเพื่อนไป โดยเริ่มต้นที่ชั้น 2 ก่อน ก็ไม่มีปัญหาอะไร ก็เลยจะไปต่อกันที่ชั้น 3 ในระหว่างทางที่จะไปชั้น 3 ก็เห็นเด็กผู้ชายคนนึงอายุประมาณ 13 นั่งอยู่มีผ้าพันศีรษะอยู่ตรงบันได ฟ้าก็ตกใจ แต่เพื่อนของฟ้าก็บอกฟ้าว่า ไม่ต้องตกใจ ฉันก็เห็น ก็เข้าใจตรงกันว่าคน ก็เลยเดินเข้าไปหาน้องคนนั้น ลักษณะของน้องผู้ชาย ก็เป็นคนปกติ หลังจากนั

เจ้าที่แรง : คุณแชมป์

Image
เรื่องเล่าโดยคุณแชมป์ เรื่องนี้เกิดขึ้นที่หอพักแห่งหนึ่งในจังหวัดอุดรธานี แชมป์ทำงานเป็นเซลล์ที่จะต้องทำงานออกต่างจังหวัดอยู่บ่อยๆ จนมีอยู่งานนึงที่จะต้องไปภาคอีสานเป็นเวลา 5 วัน ใน 4 วันแรกก็จะเป็นจังหวัดอื่นๆในภาคอีสาน และมาปิดท้ายที่จังหวัดอุดรในวันที่ 5 และใน 4 วันแรกก็ได้เช่าหอพักอยู่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เหตุการณ์เป็นปกติทุกอย่าง พอถึงวันสุดท้าย แชมป์ก็ไปถึงอุดรตอนค่ำๆ แชมป์ก็เริ่มหาที่พักซึ่งถ้าพักในแถวๆ ตัวเมืองราคาก็จะค่อนข้างแพง แชมป์ก็เลยแวะไปหาไรกินก่อน แล้วก็ถามป้าที่ขายข้าวว่า แถวนี้มีห้องราคาถูกๆมั๊ย ป้าก็บอกว่า มีๆ คืนละ 500 เดินเข้าไปตรงไปเลี้ยวซ๊ายแล้วก็เจอเลย แชมป์ก็ตัดสินที่ที่จะไปพักที่หอนี้ พอไปถึงที่พัก บริเวณรอบนอกก็ไม่ได้หรูหราอะไร คุณภาพประมาณ 3 ดาว แชมป์ก็ทำการจองแล้วที่ด้านล่างเคาท์เตอร์  แล้วก็เอาของขึ้นไปเก็บที่ห้อง ห้องที่ได้จะเป็นห้องพัดลม ห้องกว้าง และส่วนตัวแชมป์เป็นคนขี้ร้อนก็เลยเปิดหน้าต่างออกหมดทุกบาน พอเก็บของเสร็จแชมป์ก็กะว่าจะออกไปหาซื้อขนมมาไว้กินในตอนดึกๆ พอออกจากห้องก็ไปเจอน้องผู้หญิงคนนึงที่อยู่ห้องข้างๆกัน มาคุยกับแชมป์ว่า "พี่คะ รบกวนห้อ